เรื่องที่น่าสนใจภายในวันนี้จะเป็น Concept เกี่ยวกับเรื่องของ Myomodulation ซึ่งคำนี้หมอเคยได้ยินครั้งแรกเมื่อเกือบประมาณ 1-2ปีก่อนครับ คุณหมอคนแรกที่พูดถึงเรื่องนี้คือ Dr.De Miao ตอนนั้นยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่มากแต่ก็คาดการณ์กันไว้ว่าจะเป็นหลักการที่ใช้มากขึ้นในอนาคตครับ
ผ่านมาเกือบสองปี เรื่องนี้ถูกศึกษามากขึ้น คุณหมอหลายๆท่านก็เริ่มให้ความสนใจและใช้เทคนิค Myomodulation ประยุกต์เข้ามาใช้ในการฉีด (รวมถึงตัวหมอเองด้วยเช่นกัน) ตอนนี้หลายคนคงอยากทราบแล้วว่า Myomodulation คืออะไร หมอจะเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆแบบนี้ครับ
1. ความเข้าใจสมัยก่อนคือ ฟิลเลอร์จะใช้ฉีดเพื่อยกใบหน้าหรือเติมเต็มส่วนที่ขาด
2. กล้ามเนื้อที่ใบหน้าและลำคอของเรา แบ่งคร่าวๆได้สองแบบคือ กล้ามเนื้อที่ดึงหน้าขึ้น และกล้ามเนื้อที่ดึงหน้าลง
3. ถ้ากล้ามเนื้อส่วนที่ดึงหน้าขึ้นทำงานมาก หน้าเราจะยกขึ้น กลับกันถ้า ส่วนที่ดึงหน้าลงทำงานมาก หน้าเราก็จะหย่อนคล้อย
4. Toxin (หรือที่เราเรียกว่าโบท็อกซ์) ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงมีประโยชน์นอกจากทำให้ริ้วรอยหายแล้วถ้าใช้อย่างถูกวิธี ก็จะทำให้ใบหน้ายกได้ด้วย
5. ปัญหาคือบางตำแหน่งที่เราต้องการปรับ เพิ่มหรือลดการทำงานของกล้ามเนื้อ แต่เราไม่สามารถใช้ โบท็อกซ์ได้เพราะอยู่ในจุดที่ค่อนข้าง Sensitive หรือเสี่ยงต่อการฉีด โบท็อกซ์ เช่น บริเวณปาก , ร่องแก้ม หรือใต้ตา เป็นต้น
โดยสรุป Myomodulation คือแนวทางการรักษาบริเวณเหล่านั้นโดยใช้ #ฟิลเลอร์ฉีดเพื่อ ลด หรือ เพิ่ม การทำงานของกล้ามเนื้อด้วยเทคนิคเฉพาะ เช่นการฉีดฟิลเลอร์บริเวณแก้มแต่ปากยกขึ้น หรือฉีดบริเวณคางแต่ทำให้ใบหน้าดูยกเป็นต้น
เทคนิคนี้ความสำคัญคือ ถ้าผู้ฉีดเข้าใจการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้า และจุดเกาะของกล้ามเนื้อมัดต่างๆบนใบหน้าเป็นอย่างดี ก็จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาได้เป็นตามที่ต้องการครับ